All That’s Stylist วันนี้จะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักและความเข้าใจเกี่ยวกับแบรนด์ hi end มีอะไรบ้าง และ ระหว่างแบรนด์ High-end & Luxury แบรนด์ต่างกันอย่างไร ทำไมคนทั่วไปถึงชอบสับสน วันนี้เรามีคำตอบค่ะ
ความแตกต่างระหว่าง High-end กับ luxury แบรนด์
เรามาอธิบายความแตกต่างระหว่างแบรนด์ “ระดับไฮเอนด์” และ แบรนด์ระดับ “ความหรูหรา” กันก่อนที่จะพาไปดูว่า แบรนด์ hi end มีอะไรบ้าง โดยเราจะนิยามเพื่อทำความเข้าใจได้ง่าย ๆ ตามนี้ค่ะ
สินค้าฟุ่มเฟือย (luxury product) มักเป็นสินค้าระดับไฮเอนด์ (high-end) แต่สินค้าระดับไฮเอนด์ไม่จำเป็นต้องเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยเสมอไป
splitbase.com
เราจะยกตัวอย่างแบรนด์ยาสีฟันเพื่อให้ทำความเข้าได้ง่ายนะคะ เช่น แบรนด์ Carbon Coco ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตยาสีฟัน “ผงถ่านกัมมันต์” Carbon Coco ไม่ได้ทำการตลาดตัวเองว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย (luxury product) แต่ในขณะเดียวกันการออกแบบเว็บไซต์และบรรจุภัณฑ์ก็ไม่มีอะไรพิเศษเช่นกัน
Nothing — other than the product’s price — screams “high-end”
ไม่มีอะไรนอกจากตัวโปรดักส์ที่เด่นชัดออกมาและต้องการนำเสนอว่าโปรดักส์คือ สินค้า high-end
Carbon Coco ขวดเดียวขายปลีกที่ 49.96 ดอลลาร์ (1,780 บาท) ซึ่งเป็นราคาที่สูงมากในตลาด แต่เมื่อเทียบกับร้านค้าอื่นหรือแบรนด์ทางเลือก อย่างร้านขายยา ที่ขายเพียงมูลค่า 5 ดอลลาร์ (178 บาท) ถือว่า Carbon Coco อยู่ในระดับไฮเอนด์อย่างแน่นอนค่ะ
เหตุผลสำหรับราคา มีแนวโน้มว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ มีคอนเสปท์แน่ชัดผลิตจากธรรมชาติ และไม่เหมือนใคร และเป็นผลิตภัณฑ์ที่แปลกใหม่
ทำให้แบรนด์ไม่มีทางเลือกอื่นที่ชัดเจนในท้องตลาด ดังนั้นแบรนด์จึงสามารถตั้งราคาได้เท่าที่ตลาดจะแบกรับได้ ซึ่งลูกค้าที่อ่อนไหวต่อราคามักจะไม่ใช่ Target ของแบรนด์แน่นอน
ทีนี้มาดูตัวอย่างยาสีฟันของแบรนด์ Aésop กันบ้าง แบรนด์นี้ตั้งราคาอยู่ที่ 17 ดอลลาร์ (610 บาท) ซึ่งก็ถือว่าเป็นระดับไฮเอนด์เมื่อเทียบกับทางเลือกส่วนใหญ่เช่นเดียวกัน สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือผลิตภัณฑ์นี้มีแนวโน้มที่จะดึงดูดลูกค้าประเภทอื่นที่ไม่ใช่ Carbon Coco โดยสิ้นเชิง
ยาสีฟัน Aésop ไม่ได้เป็นสินค้านวัตกรรมแปลกใหม่เท่า Carbon Coco (ซึ่งอาจทำให้ราคาสูงขึ้นได้เนื่องจากปัจจัยเหล่านี้) ทำให้ Aésop ประสบความสำเร็จในการขาย เช่นเดียวกับยาสีฟัน Crest หรือ Colgate ซึ่ง “กลไก” การตลาดของแบรนด์ก็เหมือนกัน คือ >>. ใช้ทำความสะอาดฟัน
ทำให้เกิดข้อแตกต่างคือ Aésop ทำตลาดผลิตภัณฑ์ของตนอย่างชัดเจนว่า “เป็นสินค้าฟุ่มเฟือย high-end” ซึ่งในทางกลับกันทำให้ราคาของผลิตภัณฑ์อยู่ในใจผู้บริโภคทำให้คนเลือกซื้อมากกว่านั่นเองค่ะ >> ซึ่งเราจะพาทุกคนไปทำความเข้าใจกันต่อในบล็อกหน้าถึงเรื่อง อารมณ์และความรู้สึกของผู้ซื้อว่าทำไมเขาถึงเลือกซื้อสินค้า High-end & Luxury แบรนด์
แบรนด์ hi end มีอะไรบ้าง? (ในหมวดหมู่แฟชั่น)
เคยสงสัยกันไหมว่า แบรนด์ เสื้อผ้า hi end มี อะไร บ้าง? วันนี้เราจะพาทุกคนมาหาคำตอบค่ะ ซึ่ง ATS เองได้เขียนไปหลายบทความแล้วเกี่ยวกับแบรนด์ High end และมีจำแนกแบรนด์อย่างชัดเจนจาก แฟชั่นพีระมิด เพื่อน ๆ จะได้ทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้น
แต่อย่าเพิ่งสับสนไปนะคะ เพราะบางแบรนด์นิยามตนไม่เหมือนกัน ซึ่งคำว่า Luxury แบรนด์ แน่นอนว่าจะกึ่งไปทาง Haute Couture แต่ชาแนล และ ดิออร์ ก็อยู่คาบเกี่ยวระหว่าง Luxury และ High end แบรนด์ค่ะ >> อ่านต่อ ความหมาย Fashion pyramid กับการจำแนก 5 ระดับแฟชั่นที่คนรักเสื้อผ้าต้องรู้
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาดู 10 แบรนด์ hi end มีอะไรบ้างที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกในขณะนี้กันต่อเลยค่ะ
1. Chanel
ก่อตั้งขึ้นในปี 1910 ในปารีสโดย Gabrielle Coco Chanel แฟชั่นเฮาส์หรูหราที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ซึ่งแบรนด์ชาแนลแสดงออกถึงความสง่างามและมีระดับด้วยการออกแบบคลาสสิกแบบมินิมอล
ตัวโลโก้ CC ที่ออกแบบโดย Coco Chanel ในปี 1925 ทำให้แบรนด์นี้ยังเป็นตำนานที่ยังคงอยู่ ด้วยความอัจฉริยะของ Karl Lagerfeld เขาจึงช่วยชีวิตบ้านหลังนี้ไว้ได้ ต่อมาในปี 1983 เขาได้กลายเป็นหัวหน้าดีไซเนอร์ของแบรนด์ จนกระทั่งเสียชีวิตในปี 2019 >> ส่องงาน Met Gala 2023 ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการแฟชั่น ในธีม ’in honor of Karl Lagerfeld’
2. Gucci
Guccio Gucci ก่อตั้งแบรนด์แฟชั่นหรูสไตล์อิตาลีที่มีชื่อเสียงเมื่อปี 1921 ด้วยการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของพวกเขาทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก โดยมีสินค้าราคาแพงมากมายที่เป็นที่ต้องการในท้องตลาด
ในตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์คือ Alessandro Michele พวกเขามีส่วนร่วมสำคัญ ที่ช่วยบริษัทกลับมาโตขึ้น จากวิกฤตการค้าได้ แต่น่าเสียดายที่ Alessandro Michele อำลาตำแหน่ง 7 ปี ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ Gucci อย่างเป็นทางการ โดยไม่นานมานี้
3. Louis Vuitton
Louis Vuitton หนึ่งในแบรนด์แฟชั่นเก่าแก่ของโลก ก่อตั้งในปี 1854 โดย Louis Vuitton ดีไซเนอร์และนักธุรกิจชาวฝรั่งเศส เครื่องหนังของแบรนด์มีสไตล์และเป็นที่นิยมมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งแบรนด์ขยายตลาดด้วยการขายเครื่องประดับสินค้า Luxury และสินค้าฟุ่มเฟือย อื่น ๆ เช่น แว่นกันแดด รองเท้า และเครื่องเขียน
อ่านต่อ ยาโยอิ คุซามะ x Louis Vuitton! อีกครั้งในรอบ 10 ปี กับคอลเลคชั่นใหม่ วางขายมกราคม 2023
4. Versace
Gianni Versace เป็นผู้ก่อตั้งแบรนด์กูตูร์อิตาลี Versace อันทรงพลังในปี 1978 ในเมืองมิลาน เขาสร้างชื่อเสียงให้วงการแฟชั่นมากขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งต่อมา โดนาเทลลาน้องสาวของเขาเข้ามารับช่วงต่อธุรกิจของครอบครัว ซึ่งเธอก็ยกย่อง Versace และทุ่มการทำงานหนักตลอดหลายทศวรรษ
5. Hermes
แบรนด์แฟชั่น Hermes ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกโดย Thierry Hermes ในปี 1837 ในชื่อ Hermes International เมื่อคุณได้ยินชื่อ Hermes ก็อดนึกถึงสิ่งนี้โดยอัตโนมัติ นั่นคือ ผ้าพันคอ ที่เป็นจุดขายของแบรนด์
6. Dior
Dior เป็นแบรนด์เสื้อผ้าที่หรูหราของผู้หญิงเป็นหลัก ก่อตั้งขึ้นในปารีสในปี 1946 โดยนักออกแบบแฟชั่น Christian Dior ปัจจุบัน House of Dior เป็นเจ้าของโดย Groupe Arnault และ CEO คนล่าสุดคือ Sidney Toledano ซึ่งดำรงตำแหน่งนี้ตั้งแต่ปี 2558 จนปัจจุบัน
อ่านต่อ >> แบรนด์ Ambassador คนใหม่ Dior Thailand “นาย ณภัทร เสียงสมบุญ”
7. Fendi
Fendi ผู้นำด้านแฟชั่นอีกแห่งของอิตาลี เปิดตัวในปี 1925 โดย Adele และ Edoardo Fendi ดูโอ้ชาวอิตาลี ซึ่งแบรนด์หรูหรานี้ได้รับความนิยมในปี 1960 เมื่อ Karl Lagerfeld สร้างโลโก้ FF (ขนฟู) ซึ่งเป็นที่จดจำได้ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดในโลก
8. Prada
Prada S.p.A. ก่อตั้งขึ้นในอิตาลีในปี 1913 โดย Mario Prada และยังคงอยู่ในครอบครัวตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยมี Miuccia Prada หลานสาวของเขาเป็นผู้นำตั้งแต่ปี 1978
เธอสร้างชื่อเสียงให้กับ Prada ด้วยการออกแบบที่เรียบง่ายของเธอและสร้างกระเป๋าที่เป็นเครื่องหมายการค้าที่พวกเขารู้จักกันดี อ่านต่อ >> 5 เหตุผลที่ ‘Raf Simons’ คือดีไซเนอร์ที่สมบูรณ์แบบในตำแหน่งผู้อำนวยการร่วม ‘Mrs. Prada’
9. Yves Saint Laurent
ก่อตั้งขึ้นในปี 1961 โดย Yves Saint Laurent และหุ้นส่วนของเขา Pierre Berge เป็นอีกหนึ่งแบรนด์บ้านโอต์กูตูร์ของฝรั่งเศส ที่มีชื่อเสียงในเรื่องเสื้อคลุมทักซิโด้ของผู้หญิงอันเป็นเอกลักษณ์
10. Balenciaga
บ้านแฟชั่นสุดหรูของสเปนแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในซานเซบาสเตียนในปี 2460 โดยนักออกแบบฝีมือดี Cristobal Balenciaga เนื่องจากมาตรฐานที่แน่วแน่ของเขาในฐานะนักออกแบบเสื้อผ้า เขาจึงได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘master of us all’ โดย Christian Dior ปัจจุบันคือผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของ Balenciaga ชื่อ Demna Gvasalia ดีไซเนอร์ชาวจอร์เจียค่ะ
สรุป
10 แบรนด์ hi end มีอะไรบ้าง?
แบรนด์ เสื้อผ้า hi end มี อะไร บ้าง เราได้ยกตัวอย่างมา 10 แบรนด์ตามลิสท์ด้านบน 1. Chanel 2. Gucci 3. Louis Vuitton 4. Versace 5. Hermes 6. Dior 7. Fendi 8. Prada 9. Yves Saint Laurent 10. Balenciaga
ความแตกต่างระหว่าง High-end กับ luxury แฟชั่นแบรนด์
High-end คือ Ready to Wear Fashion เป็นแบรนด์แฟชั่นที่มีกลิ่นอายความหรูหรา ดีไซน์เรียบหรู มักผลิตขึ้นตามขนาดไซซ์มาตรฐาน ต่างจาก Haute Couture ที่เป็นเสื้อผ้าสั่งตัดพิเศษ แต่แบรนด์แฟชั่นเสื้อผ้าพร้อมใส่ (High end) นี้ ยังคงมีราคาค่อนข้างสูงและคุณภาพดี แตกต่างกับ Luxury แบรนด์หรู คือ แบรนด์ที่โดดเด่นด้วยคุณภาพระดับสูง ความพิเศษเฉพาะตัว และป้ายราคาที่สูง
อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม
- Prada ประวัติความเป็นมาของแบรนด์ และช่วงเวลาที่โดดเด่นที่สุดในประวัติศาสตร์แฟชั่น
- Louis Vuitton คอลแลปส์ Lego® รังสรรค์ตกแต่งหน้าร้านฉากสามมิติหลากสีสันในธีม Christmas
- ส่อง 8 ลุค “กลัฟคณาวุฒิ” กับการเดินทางไปซิดนีย์ เยี่ยมชมนิทรรศกาลของ Gucci Garden Archetypes