5 ปัจจัยที่ทำให้การแสดง Artisanal show โอต์กูตูร์ Maison Margiela ของ John Galliano น่าอัศจรรย์และมีอิทธิพลที่จะเปลี่ยนวงการแฟชั่นไปตลอดกาล

เชื่อว่าหลายคนคงได้ดู Artisanal Show SS24 ของแบรนด์ Maison Margiela หนึ่งในแบรนด์แฟชั่นโอต์กูตูร์ – Haute Couture กันไปแล้ว ถึงกับต้องตะลึงที่ดีไซเนอร์ John Galliano แสดงผลงานออกมาได้อย่างน่าทึ่ง

เพราะผลงานที่นำเสนอหลังจาก Artisanal Show นั้น ถือเป็นนามธรรมของความท้าทายและความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่เหมือนใคร โดยได้รับความประทับใจจากนักวิจารณ์และผู้สนใจแฟชั่นทั่วโลกและในโลกออนไลน์อย่างมหาศาล

>> โอต์กูตูร์ คือ การตัดเย็บชั้นสูง อ่านต่อ

Artisanal Show Maison Margiela: Spring/Summer 2024

ในการแสดง Artisanal Show Maison Margiela Spring/Summer 2024 Artisanal ครั้งนี้ John Galliano ได้ครองบริเวณล่างสะพาน Alexandre III ปารีส โดยได้รีเมคเป็น Dive bar (บาร์สไตล์เก่า) เหมือนยุค 1920 ที่เต็มไปด้วยเก้าอี้ไม้โค้งงอ, ค็อกเทล Violet flavored, และหน้าต่างกระจกมีดีเทลรอยแตก ซึ่งองค์ประกอบของบรรยากาศเหล่านี้ ถูกส่องสว่างด้วยแสงจากพระจันทร์เต็มดวง แสงแรกของปีที่ปารีส

ซึ่งโชว์ครั้งนี้ เปิดฉากด้วยเพลง Dramatic กลุ่ม อันเร้าใจสร้างความประทับใจให้กับผู้ชม ก่อนที่นางแบบจะเดินออกมา โดยให้ความรู้สึกเหมือนตกลงไปบนรันเวย์ พร้อมทิวทัศน์เมืองยามค่ำคืนที่มีหมอกหนา

ทว่าบรรยากาศในโชว์เป็นเพียงแค่อาหารเรียกน้ำย่อย แต่อาหารจานหลักนั้นมาจากวงดนตรีหลากหลายประเภทที่แสดงสมดุลแห่งบทกวีระหว่างช่วงเวลาและแสงสว่างในความมืด ที่พรีเซนท์คอลเลกชันทั้งหมด 44 ลุคออกมาได้อย่างลงตัว

มาดูเรื่องของการดีไซน์ชุดกันบ้างค่ะ ชุดที่แบบแต่ละคนใส่มีการสไตลิ่งและออกแบบออกมาได้เย้ายวนใจอย่างลึกลับแต่กลับมีชีวิตชีวา ไม่ว่าจะเป็น bodycon corsets, cinchers เข็มขัดที่พันรอบเอวเพื่อทำให้เอวของผู้สวมใส่เล็กลง ในขณะเดียวกันเพื่อสร้างภาพลวงตาว่าเอวของผู้ใส่เล็กลงจริง ๆ (ที่เราเห็นจากฉากเปิดตัวนายแบบชุดแรก)

และ เสื้อทับทรวงที่ทำจากไม้และพอร์ซเลน ชุดเดรสผ้าทูลและผ้าไหมออร์แกนซ่า การตัดเย็บเครปผ้าวูลที่เย็บขอบไม่เสร็จ เสื้อเบลาส์ลูกไม้แนวแอ็บสแตรกต์, แจ็คเก็ต, เสื้อโค้ทที่ทำจากผ้า Milletrage และโปรดักต์ดีไซน์ไอคอนิกอย่าง tabi shoe หรือร้องเท้ากีบอูฐ ผสมผสานการนำสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นเสื้อผ้าได้ มาทำเป็นเสื้อผ้าได้อย่างลงตัว

ทั้งนี้สิ่งที่ทำให้คอลเลกชันดูโดดเด่นยิ่งขึ้นอีก ก็คือ รายละเอียดการฟอกขาวผ้าจากแสงแดด, คราบยาสูบ และรายละเอียดสีซีดจาง ซึ่งเผยให้เห็นถึงคุณลักษณะภายในของตัวละครได้อย่างดี ที่ทำให้เสื้อผ้ามีความเป็นเอกลักษณ์ต่อผู้สวมใส่และอารมณ์ความรู้สึกที่แสดงผ่านท่าทางและการเคลื่อนไหวของนางแบบและนายแบบ ที่กำกับโดย Pat Boguslawski

นอกจากนี้ โชว์ยังมีการเซอร์ไพรส์ด้วยการให้ Gwendoline Christie มาร่วมเดิน ฟินาเล่ สร้างความตื่นเต้นในช่วงท้ายได้ดีมาก ซึ่งไม่เพียงแค่เทคนิคการจับเดรปผ้าหรือการตัดเย็บที่สร้างมิติคล้ายกับชุด Porcelain Doll เท่านั้น

แต่ยังรวมถึงรายละเอียดบริเวณคอ การตกแต่งเหมือนเคลือบด้วยกระเบื้องเครื่องปั้นดินเผา รวมทั้งเอฟเฟกต์การแต่งหน้าที่ให้ความเงาวาว ‘Glass Skin’ จากผลงานของ Pat McGrath เมคอัพอาร์ทิสต์ชื่อดัง ทั้งหมดนี้รวมกันเป็นผลงานที่มอบความรู้สึกที่หลากหลายให้ผู้ชม ไม่ว่าจะเป็นความสง่างามหรือความรู้สึกประหลาดใจและหลอนให้กับผู้ชม

วิเคราะห์ 5 ปัจจัย ที่ทำให้แบรนด์แฟชั่นโอต์กูตูร์ Maison Margiela เป็นที่พูดถึง

Artisanal Show Maison Margiela ของดีไซน์เนอร์ John Galliano มีความน่าอัศจรรย์และทำให้เป็นที่พูดถึงอยู่เสมออาจจะเป็นเพราะด้วยหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็น

1. Innovative Presentations: การแสดงโชว์ของ John Galliano มักจะนำเสนอนวัตกรรมและความสามารถในการสร้างเสน่ห์คอลเลกชันที่ไม่เหมือนใครในวงการแฟชั่นอยู่เสมอ เขาใช้ทุกโอกาสในการสร้างประสบการณ์ที่ไม่ธรรมดาและโชว์ของเขาที่น่าประทับใจ
2. Unconventional Atmosphere: Galliano มักสร้างบรรยากาศที่พิเศษในการแสดงและแทรกคอนเสปท์ที่ไม่เหมือนใคร ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนได้เข้าสู่โลกในจินตนาการ
3. Utilization of Beauty Tools: โชว์ของแบรนด์ Maison Margiela ของ Galliano ไม่เพียงแค่เป็นการนำเสนอเสื้อผ้า และบรรยากาศการแสดงเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการคิดไอเดียคอนเสปท์การแต่งหน้า โดยใช้เครื่องสำอางและการทำผมด้วยเทคนิคใหม่ ๆ อย่างผลงานของ Pat McGrath British make-up artist ในตำนานกับการแต่งหน้าของเธอที่ไม่มีใครหาคำตอบได้ ‘Glass Skin’ ให้แบบทุกคนที่เดินรันเวย์ Artisanal Show 2024 ครั้งนี้
4. Eccentricity and Boldness: ความแปลกประหลาดและความรู้สึกท้าทายของ Galliano มีทัศนคติไม่กลัวที่จะเซอร์ไพรส์คนดูอยู่เสมอ ทำให้คนดูตกใจและประหลาดใจ ซึ่งนับว่าเป็นการสร้างความประทับใจและความท้าทายแนวคิดเมื่อเปรียบเทียบกับแฟชั่นโชว์ทั่วไป
5. Blend of Art and Fashion: การนำศิลปะและแฟชั่นรวมเป็นหนึ่งเดียว ทำให้โชว์ของ Maison Margiela กลายเป็นผลงานที่มีมิติและความหมายลึกลงไปอย่างน่าทึ่ง

โดยรวมการผสมผสานทุกรายละเอียดที่ Galliano นำเข้ามาในโชว์ของเขาทำให้ Maison Margiela กลายเป็นแบรนด์ที่ไม่เพียงเป็นที่พูดถึง แต่ยังสร้างความเปลี่ยนแปลงและมีอิทธิพลต่อวงการแฟชั่น

สรุป

John Galliano ยังคงยืนหยัดอย่างมั่นคงในการเป็นหนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่ และผู้ที่ช่ำชองในวงการแฟชั่นที่เหลืออยู่ เนื่องจากความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ของเขาไม่เคยลดลงเลย แต่กลับมีอายุมากขึ้นเหมือนกับไวน์ ที่ค่อย ๆ ดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

หาก Galliano เป็นผู้ผลิตไวน์แล้วล่ะก็ คอลเลกชัน Artisanal Show Maison Margiela 2024 ของเขาก็เปรียบเสมือนไวน์ Château d’Yquem เนื่องจากรสชาติที่ปราณีตหรูหราและการสัมผัสที่ชวนหลงใหลไปในประวัติศาสตร์ ทำให้เรานึกถึงศิลปะของการแต่งตัวได้อย่างน่าอัศจจรย์

เพราะผลงานของเขาไม่เพียงแค่ติดตามแนวโน้มในวงการแฟชั่นเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้นำทางในการกำหนดทิศทางของศิลปะและการออกแบบที่ท้าทายทันสมัย นับว่า Artisanal Show SS24 นี้เป็นประสบการณ์ที่หลายคนต้องยกให้ความสำคัญและคำมั่นสัญญาที่จะติดตามผลงานของเขาต่อไปอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้พลาดความอลังการและนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ Maison Margiela และ John Galliano ต้องมอบให้กับโลกแฟชั่นอีกครั้งในอนาคต

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม:

• ความหมาย Fashion pyramid กับการจำแนก 5 ระดับแฟชั่นที่คนรักเสื้อผ้าต้องรู้
• Charles Frederick Worth “บิดาแห่งโอต์กูตูร์” ดีไซเนอร์ผู้มีอิทธิพลเหนือวงการแฟชั่นปารีส 1870s
• ส่องงาน Met Gala ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการแฟชั่น ในธีม ’in honor of Karl Lagerfeld’