รองเท้ากันน้ำไม่ใช่แค่ไอเท็มสำคัญสำหรับวันฝนตกหรือกิจกรรมกลางแจ้งเท่านั้น แต่ยังสามารถใส่ได้ในทุกกิจกรรม ไม่ว่าจะเดินทาง ทำงาน หรือท่องเที่ยว การดูแลรองเท้ากันน้ำจึงสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะหากมองข้ามในส่วนนี้ไปก็อาจทำให้ประสิทธิภาพกันน้ำเสื่อมลงเร็วส่งผลต่อทั้งการใช้งานและภาพลักษณ์ในระยะยาว
ซึ่งถ้ารู้จักวิธีดูแลรักษารองเท้าอย่างถูกต้อง ก็มั่นใจได้เลยว่าการลงทุนกับรองเท้าคู่โปรดนั้นคุ้มค่าจริง ๆ เพราะไม่ใช่แค่การจ่ายเงินซื้อเท่านั้น แต่แค่ใส่ใจขั้นตอนเล็ก ๆ เช่น การเช็ดทำความสะอาดหลังใช้งาน การตากในที่อากาศถ่ายเท ไม่ตากแดดจัด รวมถึงการใช้สเปรย์เคลือบกันน้ำเป็นประจำ ก็จะช่วยยืดอายุรองเท้าให้คงทน นอกจากช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวแล้ว ยังทำให้คุณดูดีและมีสไตล์ในทุกโอกาสอีกด้วย
4 วิธีดูแล “รองเท้าผ้าใบกันน้ำ” ให้เหมือนใหม่
ข้อดีของการใส่รองเท้ากันน้ำ คือ วิธีการขั้นตอนดูและรักษานั้นง่ายกว่ารองเท้าผ้าใบทั่วไป ทั้งรองเท้าแบบ Waterproof ที่มีคุณสมบัติกันน้ำได้สนิท ไม่มีรู ไม่ต้องห่วงเรื่องลุยน้ำโดนฝนแล้วจะทำให้รองเท้าเสียหาย และ Water-friendly ที่ถึงแม้จะไม่ได้กันน้ำได้ทั้งหมด แต่ก็ช่วยให้รองเท้าแห้งไว มีคุณสมบัติที่ดูแลรักษาง่าย ทำความสะอาดคราบโคลนได้เร็วและคราบไม่ฝังแน่น
วิธีที่ 1: การทำความสะอาดอย่างถูกวิธี
รองเท้าผ้าใบกันน้ำ ถึงจะดูแลง่าย แต่การจะทำความสะอาดรองเท้ากันน้ำในแต่ละครั้งก็ต้องคำนึงถึงวัสดุของรองเท้าเป็นหลักด้วย ว่าเหมาะกับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดชนิดใด และควรจะทำความสะอาดแบบไหน ควรสอบถามผู้ขายทุกครั้ง หรือ ตรวจเช็คกับแบรนด์ Composition ของการผลิต ยกตัวอย่างเช่น Tropicfeel รุ่น Lava ที่ทำจากวัสดุแตกต่างกันในแต่ละส่วน ไม่ว่าจะเป็น
- อัปเปอร์ (ส่วนบนของรองเท้า): โพลีเอสเตอร์รีไซเคิล 60%, โพลีเอสเตอร์ 40%
- แผ่นรองพื้นรองเท้า (ผ้า): โพลีเอสเตอร์รีไซเคิล 100%
- แผ่นรองพื้นรองเท้า (โฟม): EVA รีไซเคิล 40%, EVA 60%
- พื้นรองเท้าชั้นกลาง (Midsole): EVA รีไซเคิล 30%, EVA 70%
- พื้นรองเท้าชั้นนอก (Outsole): ยางสังเคราะห์รีไซเคิล 60%, ยางสังเคราะห์ 40%
✅ ซึ่งทางแบรนด์ก็ให้คำแนะนำในการดูแลรองเท้ารุ่นนี้ด้วยการซักมือ โดยสามารถทำตามวิธีและคำแนะนำของน้ำยาซักรองเท้ากีฬาโดยเฉพาะ หรือหากซักด้วยเครื่องซักผ้า ก็สามารถเลือกซักได้ในอุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียส และเลือกโปรแกรมถนอมผ้าแบบรอบสั้น (Gentle Cycle / Short Cycle) เพื่อรักษาคุณภาพของรองเท้าให้อยู่นานยิ่งขึ้น และประหยัดค่าใช้จ่ายไม่ต้องส่งร้านซักบ่อย ๆ
❌ ข้อห้ามในการซักที่ต้องคำนึงถึง
- ห้ามใช้สารฟอกขาว
- ห้ามปั่นแห้งด้วยเครื่อง (Tumble Dry)
- ไม่แนะนำให้ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม
วิธีที่ 2: การตาก
วิธีการตากรองเท้าสามารถใช้วิธีเดียวกันกับรองเท้าทั่วไปได้เลย คือ การตากไว้ในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเท ลมโกรก และไม่ตากไว้ในที่แดดจัดเพื่อหวังให้รองเท้าแห้งไวขึ้น ซึ่งรองเท้ากันน้ำบางรุ่นอาจมีเทคโนโลยีที่ช่วยซัพพอร์ตให้รองเท้าแห้งไว ทำให้ไม่ต้องเป็นกังวลว่าหากไม่มีลมรองเท้าจะแห้งหรือไม่
อย่างเช่น แบรนด์ Tropicfeel ที่มีเทคโนโลยี DrainSole™ System ช่องระบายน้ำผ่านพื้นกลาง (Midsole) เพื่อช่วยในการระบายน้ำอย่างรวดเร็ว และ AirTech™ Mesh ผ้าตาข่ายระบายอากาศที่มีคุณสมบัติแห้งไว ก็จะช่วยให้รองเท้าแห้งเร็วขึ้นกว่าเดิม
วิธีที่ 3: การจัดเก็บอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันความอับชื้น
ขั้นตอนนี้หลายคนอาจจะมองข้ามไป แต่ก็เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่จะช่วยรักษารองเท้าของเราให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน
เช่น การเก็บในที่แห้ง อากาศถ่ายเทสะดวก แม้ว่ารองเท้ากันน้ำของเราจะแห้งไวก็ตาม แต่การเก็บไว้ในความชื้นนาน ๆ โดยที่ไม่มีการระบายอากาศก็อาจทำให้วัสดุให้เสื่อมสภาพเร็วขึ้นได้ รวมถึงใช้ที่ดันทรงเพื่อรักษารูปทรงเพื่อรักษารูปร่างให้ดูใหม่อยู่เสมอ แถมที่ดันทรงบางรุ่นยังไม่ความสามารถในการช่วยดูดความชื้นและกลิ่นอับได้อีกด้วย
วิธีที่ 4: เสริมการปกป้องด้วยผลิตภัณฑ์ดูแลรองเท้า
ถึงแม้ว่ารองเท้าผ้าใบของเราจะมีคุณสมบัติในการกันน้ำอยู่แล้วก็ตาม แต่การเสริมการป้องกันก็จะช่วยเพิ่มคุณภาพของรองเท้าผ้าใบให้มากขึ้น
เช่น การฉีดสเปรย์กันน้ำหรือสารเคลือบ ที่จะป้องกันความเปียกชื้นของรองเท้า ลดคราบสกปรก และทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น ซึ่งสารป้องกันเหล่านี้ก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป สามารถศึกษาและเลือกใช้ตามความต้องการได้เลย อย่างเช่น สเปรย์กันน้ำรองเท้า BAZOOKA SPRAY ที่ฉีดหนึ่งครั้งอยู่ได้นานตั้งแต่ 1 เดือน – 1 ปี หรือ สเปรย์กันน้ำ WETLESS ที่นอกจากจะช่วยปกป้องคราบสกปรก ทำความสะอาดง่ายแล้วยังช่วยปกป้องรังสี UV ทำให้รองเท้าดูใหม่อยู่เสมอด้วย
และสิ่งสำคัญในการทำความสะอาดรองเท้ากันน้ำคือต้องไม่ลืมว่าน้ำยาทำความสะอาดที่เลือกใช้นั้นจะต้องปลอดภัยและไม่ทำลายคุณสมบัติกันน้ำโดยเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นจากการดูและรองเท้าจะกลายเป็นการทำลายรองเท้าแทน
💡 หากใครมองหารองเท้าคุณภาพที่มีคุณสมบัติในการกันน้ำ ทำความสะอาดได้ง่าย Tropicfeel ถือเป็นตัวอย่างที่ดีของรองเท้ากันน้ำที่ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานและการดูแล ด้วยคุณสมบัติเด่นอย่าง กันน้ำและแห้งไว
ทำให้สวมใส่ได้สบายในทุกสภาพอากาศ ไม่ว่าจะเดินลุยฝน กิจกรรมกลางแจ้ง หรือท่องเที่ยวทางน้ำ รองเท้าจะไม่อมน้ำและพร้อมแห้งเร็ว ช่วยลดความอับชื้นและกลิ่นไม่พึงประสงค์ รวมไปถึงการทำความสะอาดแบบเบื้องต้นและปล่อยให้แห้ง รองเท้าก็กลับมาพร้อมใช้งานได้แล้ว
>> อ่านเพิ่มเติม รองเท้า Tropicfeel ดีไหม? ชวนเจาะลึก! รองเท้าผ้าใบคู่เดียว พร้อมลุยทุกที่ ทุกไลฟ์สไตล์
สรุป: 4 วิธีดูแลรองเท้าผ้าใบกันน้ำคู่โปรด
การลงทุนในรองเท้าคุณภาพ ไม่ใช่แค่รองเท้าราคาแพงหรือรองเท้าที่สวยและดูดีเท่านั้น แต่ยังหมายถึงรองเท้าที่ซัพพอร์ตทั้งสไตล์และคุณภาพชีวิตของเราด้วย ซึ่งรองเท้าผ้าใบกันน้ำอาจจะเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่หลายคนกำลังมองหาร่วมกับความสวยงาม ด้วยสภาพอากาศบ้านเราที่ฝนตกอยู่บ่อยครั้ง หรือคนที่ใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยกิจกรรมสายลุย ทำให้ไอเทมนี้ค่อนข้างจะตอบโจทย์กับใครหลายคน
ซึ่งการให้ความสำคัญและใส่ใจในการดูแลรองเท้าอย่างถูกวิธีจะช่วยให้รองเท้าคู่โปรดอยู่กับคุณได้นานขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรักษาความสวยงามและฟังก์ชัน ที่จะทำให้มั่นใจกับการใส่รองเท้าคู่เดิมที่ยังดูดีและช่วยเสริมภาพลักษณ์ที่ดีไปจนกว่าจะหมดอายุการใช้งานอีกด้วย
อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม:
- สไตลิสต์แชร์ วิธีเลือก ‘รองเท้าผ้าใบระบายอากาศดี’ พร้อม 5 เคล็ดลับเท้าแห้งสบายไร้กังวลเรื่องกลิ่น
- พลิกโฉมรองเท้าคู่เดียวเที่ยวทั่วโลก Tropicfeel แตกต่างจากรองเท้า EVA คู่โปรดอย่างไร?
- รองเท้า Tropicfeel ดีไหม? ชวนเจาะลึก! รองเท้าผ้าใบคู่เดียว พร้อมลุยทุกที่ ทุกไลฟ์สไตล์
