Fashion pyramid หรือ ที่แปลเป็นไทยว่า พีระมิดแฟชั่น ซึ่งเป็นคำศัพท์ที่เรามักรู้ความหมายตรงตัวของมันดี แต่ถ้าหากพูดถึง Fashion pyramid ในบริบทของวงการแฟชั่น คนที่คลุกคลีอยู่ในวงการนี้ หรือเปิดแบรนด์เป็นของตัวเอง จะเข้าใจตื้นลึกหนาบางของคำนี้ดี
แต่แน่นอนว่าทุกคนที่ชื่นชอบแฟชั่น ชอบแมตช์ไสตล์การแต่งตัวให้เก๋อยู่เสมอ ไม่ได้มีแบรนด์เป็นของตัวเอง หรือเรียนทางด้านแฟชั่นมาโดยตรง อาจจะยังไม่เข้าใจความหมายของคำว่า Fashion pyramid?
วันนี้ All That’s Stylist จะพาทุกคนมาเจาะลึกถึงควาหมายของ Fashion pyramid ให้ทุกคนที่รักเสื้อผ้า และชื่นชอบการแต่งตัวตามเทรนด์อยู่เสมอ พออ่านบทความนี้จบแล้วคุณจะเข้าใจแฟชั่นมากกว่าที่เคยแน่นอน
ความหมาย Fashion pyramid คือ อะไร?
Fashion pyramid คือ พีระมิดที่คอยจำแนกระดับแบรนด์แฟชั่น เพื่อให้คนทำแบรนด์สามารถกำหนดทิศทางของแบรนด์ออกมาได้อย่างชัดเจน ว่าแบรนด์ของคุณอยู่ระดับไหน โดดเด่นกว่าคู่แข่งอย่างไรบ้าง ซึ่งจะจำแนกแบรนด์แฟชั่นด้วย คุณภาพวัสดุ ขั้นตอนการผลิต การออกแบบสินค้า ราคา เป็นต้น
Fashion pyramid of brands
หากเพื่อน ๆ ลองมองดู พีระมิดแฟชั่น จะเห็นว่า แบรนด์ที่มีราคาสูงจะอยู่ด้านบนสุด ส่วนแบรนด์ที่ราคาเป็นมิตรมักอยู่ข้างสุดของพีระมิด นั้นก็เพราะว่า แบรนด์แฟชั่นราคาสูง คุณภาพของสินค้าก็สูงตามไปด้วย อาจจะเป็นสินค้าสั่งทำพิเศษ หรือใช้วัสดุเกรดพรีเมียม
การจำแนก 5 ระดับตำแหน่งการตลาดแฟชั่น
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นเกี่ยวกับความหมายของ พีระมิดแฟชั่น ว่าคืออะไร All That’s Stylist จะพาทุกคนมาดูว่าการจำแนก 5 ระดับแฟชั่น ได้แก่
- แบรนด์แฟชั่นโอต์กูตูร์ – Haute Couture
- แบรนด์แฟชั่นเสื้อผ้าพร้อมใส่ (Hi end) – Ready to Wear
- การกระจายตัวของแฟชั่นแบรนด์ – Diffusion Fashion
- แบรนด์แฟชั่นระดับพรีเมียม – Bridge Fashion
- แบรนด์แฟชั่นท้องตลาด – Mass Market Fashion
แบรนด์แฟชั่นโอต์กูตูร์ – Haute Couture
Haute Couture เคยได้ยินประโยคที่ว่า “มีเงินเยอะแค่ไหน ก็ใช่ว่าจะได้ครอบครอง” เพราะแบรนด์แฟชั่นโอต์กูตูร์นั้น เป็นชิ้นงานที่ผลิตขึ้นด้วยเทคนิคการตัดเย็บขั้นสูง ต้องอาศัยความชำนาญและใส่ใจดีเทลทุกระเบียบนิ้วด้วยช่างฝีมือระดับสูง
โดยเป็นการตัดเย็บพิเศษให้เหมาะกับรูปร่างเฉพาะบุคคลเท่านั้น เรียกได้ว่ามีเพียงไม่กี่ชิ้นบนโลก ส่วนใหญ่แบรนด์แฟชั่นโอต์กูตูร์ มักผลิตโดยแบรนด์หรูระดับโลก เช่น Chanel, Hermes, Dior, Bvlgari, Dolce & Gabbana, Prada, Schiaparelli และ Givenchy
อ่านบทความเกี่ยวกับ แบรนด์แฟชั่นโอต์กูตูร์มีแบรนด์ไหนบ้างได้ที่ > โอต์กูตูร์ คือ อะไร? ที่มาของการตัดเย็บชั้นสูง ที่สุดแห่งวงการแฟชั่นที่มากกว่าการดีไซน์ และ Charles Frederick Worth “บิดาแห่งโอต์กูตูร์” ดีไซเนอร์ผู้มีอิทธิพลเหนือวงการแฟชั่นปารีส 1870s
แบรนด์แฟชั่นเสื้อผ้าพร้อมใส่ (Hi end) – Ready to Wear
Ready to Wear Fashion เป็นแบรนด์แฟชั่นที่มีกลิ่นอายความหรูหรา ดีไซน์เรียบหรู มักผลิตขึ้นตามขนาดไซซ์มาตรฐาน ต่างจาก Haute Couture ที่เป็นเสื้อผ้าสั่งตัดพิเศษ
แต่แบรนด์แฟชั่นเสื้อผ้าพร้อมใส่ (High end) นี้ ยังคงมีราคาค่อนข้างสูงและคุณภาพดี เหมาะสำหรับใครที่อยากมีไอเทมหรูหรา ดูดีมีระดับ แบรนด์แฟชั่นที่ผลิตเสื้อผ้าพร้อมใส่ ได้แก่ Versace, Donna Karan, Burberry, Louis Vuitton, YSL, และ Fendi
อ่านบทความเกี่ยวกับ แบรนด์แฟชั่นเสื้อผ้าพร้อมใส่ เพิ่มเติมได้ที่ ยาโยอิ คุซามะ x Louis Vuitton! อีกครั้งในรอบ 10 ปี กับคอลเลคชั่นใหม่ วางขายมกราคม 2023 หรือ ส่อง 8 ลุค “กลัฟคณาวุฒิ” กับการเดินทางไปซิดนีย์ เยี่ยมชมนิทรรศกาลของ Gucci Garden Archetypes
การกระจายตัวของแฟชั่นแบรนด์ – Diffusion Fashion
Diffusion Fashion เป็นแบรนด์แฟชั่นที่ inspiration มาจากแบรนด์แฟชั่นเสื้อผ้าพร้อมใส่ (Hi end) แต่มีจุดเด่นแตกต่างที่ราคาถูกลง และการดีไซน์สินค้าให้มีความหลากหลาย เพื่อให้เข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น ยกตัวอย่างแบรนด์แฟชั่น Diffusion Fashion เช่น Paul Smith, Stella McCartney, Dsquared2 และ Ralph Lauren.
แบรนด์แฟชั่นระดับพรีเมียม – Bridge Fashion
Bridge Fashion ต้องบอกว่าแบรนด์แฟชั่นระดับพรีเมียม ถือเป็นแบรนด์แฟชั่นที่อยู่ตรงกลางระหว่างแบรนด์แฟชั่น Hi end และ Mass Fashion ซึ่งแบรนด์แฟชั่นระดับพรีเมียมมีความหรูหรามากกว่า แบรนด์แฟชั่น High Street
แต่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่ายด้วยระดับคุณภาพเหมาะสมกับราคา โดย Bridge Fashion ที่หลาย ๆ คนคุ้นเคย ได้แก่ Guess, Hugo Boss, Calvin Klein, Diesel, DKNY, และ Michael Kors
แบรนด์แฟชั่นท้องตลาด – Mass Market Fashion
Mass Market Fashion คือ แบรนด์แฟชั่นที่มีแรงบันดาลใจมากจากแบรนด์หรู แต่คงคอนเซ็ปต์ที่ว่า อยากให้เข้าถึงผู้คนจำนวนมาก ด้วยการดีไซน์สินค้าให้ใส่ได้ในชีวิตประจำวันกับราคาไม่แพง คุณภาพพอเหมาะ ยกตัวอย่างแบรนด์แฟชั่นตลาด คือ Zara, H&M, Forever21, GAP, American Eagle, Mango, Bershka, และ Stradivarius เป็นต้น อ่านต่อ>> เมื่อแบรนด์ระดับตำนาน Mugler และ H&M ออกคอลเลกชั่นใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์ที่สุดแห่งปี 2023
สรุป
จบไปแล้วนะคะสำหรับ การจำแนก 5 ระดับแฟชั่นที่คนรักเสื้อผ้าต้องรู้ ทีนี่เพื่อน ๆ ก็สามารถจำแนกแบรนด์เสื้อผ้าที่ตัวเองซื้อว่าอยู่ในระดับแฟชั่นประเภทไหนได้แล้ว บอกเลยว่าเพื่อน ๆ สามารถนำสิ่งนี้ไปใช้เป็นทริกในการตอบโจทย์ความต้องการ และการเลือกคุณภาพของสินค้า ราคา ก่อนตัดสินใจซื้อเสื้อผ้า หรือใช้วางแผนก่อนจะทำแบรนด์แฟชั่นของตัวได้อีกด้วย
อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม
- ส่องงาน Met Gala 2023 ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการแฟชั่น ในธีม ’in honor of Karl Lagerfeld’
- Prada ประวัติความเป็นมาของแบรนด์ และช่วงเวลาที่โดดเด่นที่สุดในประวัติศาสตร์แฟชั่น
- แบรนด์ Ambassador คนใหม่ Dior Thailand “นาย ณภัทร เสียงสมบุญ”